เรื่องสั้น - นิทานแกะดำ

ในทุกกาลครั้งหนึ่ง หากมองเข้าไปในฝูงแกะ คงจะพบแกะสีดำโดดเด่น ท่ามกลางหมู่แกะสีขาว—ขาวมาก ขาวเสียจนขับให้แกะสีดำยิ่งดำกว่าเดิม

แกะดำคงรู้สึกแปลกแยก เมื่อสุนัขต้อนแกะเข้ามาทำหน้าที่ มันจึงทำเมินเสีย ไม่ใส่ใจเขี้ยวขาวที่แยกขู่นั่น แล้วเริ่มหันหลังเดินจากมา

วันหนึ่ง แกะดำพบอีกา อีกาตัวสีดำ—สีดำเหมือนแกะดำ แกะดำเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปหา มันคงหมายจะทักทาย แต่อีกาใช้ตาดำวาวมองอยู่เพียงครู่แล้วกรีดปีกโผบินหนีไป แกะดำอยากจะตามไป ด้วยเห็นว่ามีขนสีดำเหมือนกัน แต่อีกาโผบิน และแกะไม่มีปีก

แกะดำพบความแตกต่างของตนเองกับอีกา จึงเดินต่อไป

ไม่นานนัก เมื่อแกะดำเดินเฉียดลำน้ำ แกะดำพบฝูงม้า—ม้าหลากสีนัก ทั้งขาว ทั้งน้ำตาล ทั้งดำ ปะปนทั่วทั้งฝูง อีกทั้งม้านั้นมีสี่ขา สี่ขาเหมือนแกะ แกะดำก้าวเท้าเข้าไปหาเมื่อฝูงม้าหมดกระหาย เงยหน้าจากลำธาร และเห็นแกะตัวหนึ่ง ม้ามองอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ในใจอาจสงสัย ว่าแกะมาทำอะไร แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป เพียงแต่เดินเบี่ยงออกมาจากแนวธาร และออกวิ่ง

เพราะมีสี่ขาเหมือนกันแกะดำจึงออกวิ่งตาม

แต่แกะดำวิ่งตามม้าไม่ทัน วิ่งให้ตายอย่างไรก็ไม่มีวันเป็นอย่างม้า และคงไม่ใช่ความผิดม้าที่วิ่งเร็วเกินไป อีกทั้งคงไม่ใช่ความผิดม้า ที่ไม่ได้เอ่ยถามออกไป ว่าแกะมาทำอะไรที่นี่ ดังนั้น แกะดำวิ่งหยุดวิ่งแล้วออกเดินต่อ

และไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่แกะดำกำลังยืนอยู่ข้างหมาป่า

หมาป่าที่มีขนสีดำอย่างที่อีกามี มีสี่ขาอย่างที่แกะมี และมองแกะดำด้วยความสงสัยอย่างที่ม้ามอง ต่างแค่เพียงหมาป่าเอ่ยปากถามแกะดำ ว่าแกะมาทำอะไรที่นี่

แกะดำสงสัยนัก ว่าหากเป็นสีดำแล้ว หมาป่าจะยังล่าหรือไม่ จึงไม่ตอบคำถามหมาป่า แต่เอ่ยบอกออกไป ข้าเป็นแกะ

หมาป่าจึงสงสัยบ้าง ก็เห็นอยู่แล้วว่าเป็นแกะ จะมาป่าวประกาศให้หมาป่าล่าเล่นหรืออย่างไรกัน ครั้นสงสัยมากเข้าก็ต้องถาม เป็นแกะแล้วทำไมกัน ไม่รีบหนีเสีย ไม่กลัวโดนล่าหรือ

แกะดำตอบทันควัน ข้าเป็นแกะดำอย่างไรเล่า แกะดำ ไม่ใช่สีขาวอย่างทั่วไป

หมาป่ามองแกะดำอย่างครุ่นคิด มองอยู่อย่างนั้น ยังไม่คิดล่าแกะดำในทันใด ครั้นแล้วก็เอ่ยต่อ เจ้าก็เพิ่งบอกไปว่าเป็นแกะ ดำกับขาวแล้วทำไม แกะอย่างไรก็เป็นแกะอยู่นั่นเอง

เวลานี้ หากแกะมีคิ้ว มันคงขมวดคิ้ว แกะดำคิดตามคำพูดของหมาป่า

แล้วท่านล่าแกะดำไหม?

หมาป่านั่งนิ่งอย่างองอาจในท่าทีแกะไม่มีทางทำได้ นั่งฟังคำถามของแกะดำ ฟังจบก็นั่งอยู่อย่างนั้น เมื่อเปิดปากตอบก็ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น

ข้าล่าแกะ


------------------

จบแล้ว ข้างล่างนี่ไม่ต้องอ่านก็ได้

แต่ก็สวัสดีนะทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน ฮา เป็นความเรียงที่เขียนไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2011 นู่น นับจากวันนี้ก็เกือบสิบปีแล้ว! ตอนนั้นอยู่มัธยม เขียนส่งประกวดหรือสมัครอะไรสักอย่าง

เรื่องสั้น (มาก) ขนาดห้าร้อยกว่าคำ ไม่ได้แก้ไขเนื้อหาจากเมื่อสิบปีที่แล้วเลย เป็นงานเขียนของตัวเองชิ้นที่ติดใจมากที่สุด ติดใจในแง่ที่ว่าเราเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเรื่องเล่านี้ให้ข้อคิดอะไรไหม หรือกระทั่งต้องให้ข้อคิดอะไรหรือเปล่า ในแง่ที่ว่าเราเองก็ไม่รู้ว่าหลังจากเราตัดจบแล้ว ถ้าเรื่องจะเดินต่อ มันจะเดินต่อไปทางไหน 

วันก่อนนอนไม่หลับแล้วก็คิดถึงขึ้นมา เลยมาค้นๆ หาๆ ดูว่ายังมีไฟล์อยู่ไหม และโชคดีมากที่ยังมี คิดเพราะนอนไม่หลับเลยนึกถึงนิทานก่อนนอนที่ตอนเด็กๆ ชอบฟัง ชื่อเรื่อง It's Not Easy Being a Bunny เล่าเรื่องของกระต่าย P.J. Funnybunny ที่ไม่ชอบตัวเองที่เป็นกระต่ายเอาเสียเลย ก็เลยออกไปตามหาตัวตน ลองเป็นสัตว์อื่นๆ ว่าไปแล้วก็ถือเป็นการ์ตูนเด็กที่เล่าเรื่อง coming of age รึเปล่านะ...

ที่นึกถึงเชื่อมกันมาเพราะเราคิดว่าน้องแกะของเราได้รับอิทธิพลความ "ตามหาตัวตน" ในจุดหนึ่งเหมือนกัน รวมกับช่วงเวลามัธยม หัวเลี้ยวหัวต่อในการเลือกอนาคตกลายๆ ในนามของคณะและมหาวิทยาลัย แต่ทวิสต์ไปกลางเรื่องซะเฉยๆ ไม่มีตอนต่อไม่มีตอนจบให้ด้วย เพราะเราเอง—จะในตอนนั้นหรือในตอนนี้—ก็ยังคงอยู่ในเฟสของการค้นหาต่อไปเรื่อยๆ แหละมั้ง

ผ่านมาสิบปีแล้ว ไม่ว่าน้องแกะจะนั่งอยู่ตรงนั้นหรือจะวิ่งหนี ไม่ว่าหมาป่าจะกินหรือไม่กิน ก็ขอให้ตามหาตัวเองที่ชอบที่สุดให้เจอนะ

Comments

Popular posts from this blog

เรื่องเล่าตอนทำพาสปอร์ตหาย และฮาวทูทำยังไงดี Missing Passport and How To Find It (Hint: you don’t)

Tokyo Summer Night คืนหนึ่งคืนนั้นในฤดูร้อน

พกเมอร์ฟีไปเที่ยวลั่วหยาง, Frozen China 2